วันพฤหัสบดีที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2555

ประกันภัยรถยนต์กับการคุ้มครองรถติดก๊าซ











1. การกำหนดอัตราเบี้ยประกันภัยรถยนต์ มีปัจจัยที่นำมาใช้ในการ
กำหนดอัตราเบี้ยประกันภัยรถยนต์ ได้แก่ ประเภทรถ ลักษณะการใช้รถ อายุรถยนต์ อายุผู้ขับขี่
(กรณีกรมธรรม์ระบุชื่อผู้ขับขี่) จำนวนเงินเอาประกันภัยรถยนต์ กลุ่มรถยนต์  และอุปกรณ์เพิ่มพิเศษ
(ถ้ามี) ไม่ได้นำปัจจัยในเรื่องการติดตั้งระบบก๊าซ NGV และ LPG  มาใช้ในการกำหนดอัตราเบี้ย
ประกันภัยรถยนต์
2. การติดตั้งระบบก๊าซ  NGVและLPG  สำหรับการประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ
ประเภท 1 จะมีผลให้จำนวนเงินเอาประกันภัยรถยนต์เพิ่มขึ้น  เนื่องจากการประกันภัยประเภท1
จะให้ความคุ้มครอง รวมถึงอุปกรณ์  เครื่องตกแต่ง  หรือสิ่งที่ติดประจำอยู่กับตัวรถยนต์ ฉะนั้น
ในการกำหนดจำนวนเบี้ยประกันภัยรถยนต์จะต้องคิดรวมมูลค่าของอุปกรณ์ที่ติดตั้งดังกล่าวไว้ในจำนวน
เงินเอาประกันภัยรถยนต์ตัวรถด้วย
3. หากมีการติดตั้งอุปกรณ์สำหรับระบบก๊าซ  NGVและLPG เจ้าของรถมี
หน้าที่ต้องแจ้งให้บริษัทประกันภัยรถยนต์ทราบ เนื่องจากหากเจ้าของรถไม่ได้แจ้งการติดตั้งอุปกรณ์หลัง
จากการรับประกันภัยรถยนต์แล้ว หากเกิดเหตุและรถคันเอาประกันภัยเป็นฝ่ายผิด ความคุ้มครองที่จะ
ได้รับจากกาประกันภัยรถยนต์อาจไม่สมบูรณ์ ดังนี้
3.1)  หากรถคันเอาประกันภัยรถยนต์เสียหายสิ้นเชิง  บริษัทจะจ่ายค่าสินไหม
ทดแทนตามจำนวนเงินเอาประกันภัยรถยนต์ที่ทำไว้เท่านั้น นั่นคือ  จำนวนเงินที่ยังไม่รวมมูลค่า
อุปกรณ์ของระบบก๊าซที่ติดตั้งเพิ่มเติม
3.2) หากอุปกรณ์ติดตั้งระบบก๊าซดังกล่าวได้รับความเสียหายจะไม่ได้
รับความคุ้มครอง ทั้งนี้ ในกรณีที่มีการติดตั้งระบบก๊าซดังกล่าวก่อนการรับประกันภัยรถยนต์  ซึ่งโดย
หลักปฏิบัติแล้วถือว่าอุปกรณ์ที่ติดตั้งขึ้นมานี้ เป็นส่วนหนึ่งของตัวรถคันเอาประกันภัยรถยนต์อยู่แล้ว
ในการประกันภัยรถยนต์ประเภท1 เมื่อเกิดเหตุบริษัทประกันภัยรถยนต์จะต้องให้ความคุ้มครองตามเงื่อนไข
กรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็นความเสียหายต่อบุคคลภายนอก และความเสียหายต่อ
ตัวรถคันเอาประกันภัยรถยนต์ซึ่งรวมถึงความเสียหายและสูญหายของอุปกรณ์ที่ติดตั้งเพิ่มเติมนี้ด้วย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น