- กำหนดประเภทหรือชั้นของการประกันภัย (เช่น พ.ร.บ. อย่างเดียว หรือชั้นที่ 1 - 3) สำหรับชั้นที่ 1 - 3 คุณควรดูว่าคุณมีพฤติกรรม การใช้รถเป็นอย่างไร หากมีกำลังซื้อจำกัด ขับน้อย ใช้ในระยะทางใกล้ๆ ไม่ค่อยเกิดอุบัติเหตุ การประกันภัยประเภทที่ 3 อาจเป็นทาง เลือกที่ดี
- ระบุรวม พ.ร.บ. ในกรณีที่คุณต้องการซื้อประกันภัยชั้นที่ 1 - 3 พร้อม พ.ร.บ.
- การระบุชื่อผู้ขับขี่ สำหรับประกันภัยประเภทที่ 1 คุณสามารถระบุชื่อผู้ขับขี่และอายุได้โดยสามารถระบุชื่อได้ชื่อ อายุ จะเป็น ตัวกำหนดเบี้ยประกันภัย การระบุชื่อจะทำให้ค่าเบี้ยถูกกว่าการไม่ระบุชื่อ
- ทุนประกันภัย คือวงเงินความคุ้มครองที่บริษัทประกันภัยจะชดใช้ให้ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ ในทางปฏิบัติบริษัทประกันภัยจะเป็น ผู้กำหนดทุนประกันภัยให้แก่รถแต่ละคัน ซึ่งอาจจะไม่เท่ากัน เพียงแค่คุณระบุยี่ห้อรุ่นขนาดเครื่อง และ ปีของรถยนต์คุณ ทุนประกันภัยที่แต่ละบริษัทกำหนดจะปรากฏให้โดยอัตโนมัติ
- ชนิดรถยนต์ ถ้ารถคุณเป็นรถป้ายแดงออกใหม่ บริษัทประกันภัยจะไม่ตรวจสภาพรถยนต์คุณ แต่ถ้าเป็นรถใช้แล้วบางบริษัทอาจมี การตรวจสภาพรถยนต์โดยจะส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจ
- ค่าเสียหายส่วนแรก (Deductible) คือวงเงินสูงสุดที่คุณจะต้องรับผิดชอบในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ เราขอแนะนำให้คุณกำหนดค่า เสียหายส่วนแรกให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้โดยไม่ควรเกิน 5,000 บาท สำหรับการทำประกันภัยประเภทที่ 1 เพราะเงินจำนวนนี้ สามารถนำไปเป็นส่วนลดเบี้ยประกันภัยของคุณได้
- ประวัติการประกันภัยสำหรับผู้ที่มีส่วนลดมาจากบริษัทเดิม คุณสามารถโอนส่วนลดมาที่ใหม่ได้ อย่างไรก็ตาม บางบริษัทจะมี ขอบเขตในการให้ส่วนลด เช่น เพียงแค่ 20% ไม่ว่าจะได้จากที่เดิมเท่าไร เพื่อเป็นการประหยัดเวลาในการสมัคร คุณควรระบุข้อมูล ประวัติให้ครบถ้วนถูกต้อง ข้อมูลที่ระบุมานั้น บริษัทประกันภัยจะทำการตรวจสอบยืนยันอีกที
2. เตรียมพร้อมข้อมูลหมายเลขทะเบียนรถ และเลขตัวถัง
3. กรอกใบสมัครและทำตามขั้นตอนที่ระบุ
4. กรมธรรม์ของคุณจะถูกจัดส่งให้ถึงบ้านทางไปรษณีย์ หรือโดยเจ้าหน้าที่ตรวจสภาพรถยนต์ของบริษัทประกันภัย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ 1737
บริษัท ทีคิวเอ็ม อินชัวร์รันส์ โบรคเกอร์ จำกัด