วันจันทร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ประกันภัยสัตว์เลี้ยง

เกร็ดความรู้ดีๆ จาก  ประกันภัยรถยนต์ โปรโมชั่น ประกันรถยนต์ ดีๆเบื่อซ่อม อยากขาย ไว้ใจ  รถยนต์มือสอง ตลาดรถ รับฝากขายรถมือสอง เปรียบเทียบรถยนต์ ฟรี!!

                 
ถ้าพูดถึงการประกันภัยในบ้านเรา ทั้งประกันชีวิต ประกันสุขภาพ ประกันวินาศภัย  หลายคนคงรู้จักกันดี แต่ถ้าพูดถึงประกันภัยตัวนี้ หลายคนอาจจะอึ้ง “ประกันภัยสัตว์เลี้ยง”  ที่เสนอความคุ้มครองทั้งชีวิตและสุขภาพ

บริษัทผู้ประกอบการประกันภัยสัตว์เลี้ยงในเมืองไทย มีอยู่2รายใหญ่และหนึ่งในนั้นคือ  “เมืองไทยประกันภัย”  ซึ่ง วาสิต  ล่ำซำ  รองกรรมการผู้จัดการ เป็นผู้ให้ข้อมูลกับ “มติชนออนไลน์” อย่างน่าสนใจ

วาสิต  เผยว่า การประกันภัยสัตว์เลี้ยงของเมืองไทยประกันภัย  เข้าสู่ตลาดประมาณ 5-6 เดือนที่ผ่านมา ในชื่อ เพ็ทเลิฟเวอร์ ( Pet Lovers ) โดยมองการตลาด จากวิถีชีวิตของคนเมืองที่นิยมเลี้ยงสัตว์มากขึ้น  และไม่เพียงแต่เท่านั้น กลุ่มคนเหล่านี้ ยังดูแลสัตว์เลี้ยงเสมือนสมาชิกในบ้าน

สัตว์เลี้ยงที่อยู่ในแผนการประกันภัย  ขณะนี้มีแค่2ชนิดเท่านั้นคือ สุนัขและแมว โดยไม่มีมีเงื่อนไขในเรื่องสายพันธุ์ แต่มีเงื่อนไขเบื้องต้นคือ  ต้องมีอายุระหว่าง 3 เดือน ถึง 7 ปี  ต้องเลี้ยงอยู่ในอาณาเขตประเทศไทยเท่านั้น และต้องได้รับการฉีดวัคซีนครบตามประเภทโรคและกำหนดเวลา

ส่วนความคุ้มครอง มีตั้งแต่กรณีเสียชีวิตจากการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ หรือการเจ็บป่วย  ค่ารักษาพยาบาลจากอุบัติเหตุ ค่ารักษาพยาบาลจากการเจ็บป่วย  ความผิดชอบต่อบุคคลภายนอกอันเนื่องมาจากสัตว์เลี้ยง  ค่าใช้จ่ายในการโฆษณา การประกาศเพื่อติดตามสัตว์เลี้ยงที่สูญหาย  ค่าฉีดวัคซีนป้องกันโรคในสัตว์เลี้ยง  บริการให้คำแนะนำและข้อมูลด้านสัตว์เลี้ย และค่าฝังไมโครชิพ กรณีเลือกประกันภัยแบบสัตว์เลี้ยงมีไมโครชิพ
วาสิต เผยว่า การประกันภัยของ “เพ็ทเลิฟเวอร์”   รับประกันทั้งแบบที่สัตว์ฝังไมโครชิพ และแบบที่ไม่ฝังไมโครชิพ ซึ่งแบบที่ไม่ฝัง จะมีเบี้ยประกันภัยสูงกว่า 5-10 เปอร์เซนต์

ทั้งนี้ เบี้ยประกันภัยโดยรวม  แปรไปตามทุนประกัน หรือมูลค่าความคุ้มครอง โดยอยู่ระหว่าง 2,700 – 7,300 บาท
เป็นต้นว่า ในสัตว์แบบที่มีไมโครชิพ  เบี้ยประกันที่ 6,600 บาท มีการคุ้มครองกรณีเสียชีวิต  20,000 บาท ค่ารักษาพยาบาลจากอุบัติเหตุ 10,000 บาทต่อครั้ง จากการเจ็บป่วย 5,000 บาท ต่อครั้ง (สูงสุดไม่เกิน 25,000 บาท ต่อปี)  ความรับผิดต่อบุคคลภายนอก 10,000 บาท  ค่าใช้จ่ายในการโฆษณา  ประกาศตามหาสัตว์ที่สูญหาย 25,000 บาท  ค่าวัคซีน 500 บาท และค่าฝังไมโครชิพ  250  บาท  เป็นต้น
วาสิต  กล่าวอีกว่า จากการออกประกันภัยตัวนี้สู่ตลาด  ในระยะเวลา 6 เดือนที่ผ่านมา มีลูกค้าทำประกันภัยสุนัขประมาณ 100 ตัว ซึ่งจะว่าไปแล้ว ก็ยังถือว่าไม่มาก   เนื่องจากไม่ได้คาดหวังว่าจะให้ประกันตัวนี้เป็นตัวนำตลาด เพียงแต่ต้องการเสริมขึ้นมาให้ครบไลฟ์สไตล์ของลูกค้าในกลุ่มประกันภัย

สำหรับมูลค่าการตลาดนั้น วาสิต เผยว่า มีอยู่ราว ๆ 10 ล้านบาทเท่านั้น ซึ่งถือว่ายังน้อยมากเมื่อเทียบกับต่างประเทศ อย่างในทวีปยุโรปที่มีมูลค่าตลาดนับ 100 ล้านยูโร เนื่องจากลูกค้ามีความเข้าใจในตัวสินค้ามากกว่า

“ผมว่าคนที่ซื้อไปแล้วก็ใช้คุ้ม เพราะปัจจุบันค่ารักษาพยาบาลของสัตว์เลี้ยง ก็ใกล้เคียงกับของคนแล้ว” วาสิตว่าอย่างนั้น

ในส่วนความคุ้มครองความรับผิดต่อบุคคลภายนอกนั้น  วาสิต เล่าว่า  “นี่เป็นเคสที่เกิดขึ้นจริงเลย คือ มีสุนัขของลูกค้าที่ซื้อประกันภัย ไปกัดกระเป๋าหลุยส์ วิตตอง ของเพื่อน ทางบริษัทก็จ่ายไป 10,000  บาทตามทุนประกัน”
กลุ่มลูกค้าที่เมืองไทยประกันภัยวางไว้คือ กลุ่มกลางถึงบน  ซึ่งเป็นกลุ่มที่ยินดีจ่ายเพื่อน้องหมา น้องแมว  ที่เขาและเธอเหล่านั้น เลี้ยงประดุจลูกในไส้

และนี่เป็นอีกหนึ่งนิมิตหมายที่ดี ในการยกระดับคุณภาพชีวิตสัตว์เลี้ยงที่นับวันพวกเขาเหล่านี้จะไม่ใช่เพียงแค่สัตว์เลี้ยงอีกต่อไป
ที่มา : มติชนออนไลน์

วันจันทร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ทำประกันภัยเดินทางให้อะไรแก่เรา



ประกันการเดินทางปกติ (Travel Accident Insurance: TA)
- การชดเชยในด้านชีวิตและร่างกาย ได้แก่ เสียชีวิต ทุพพลภาพ สูญเสียอวัยวะ
- ค่ารักษาพยาบาลกรณีเกิดอุบัติเหตุ ไม่ว่าจะเป็นผู้ป่วยนอก (OPD) เช่น มีดบาดมือ ขาแพลง และผู้ป่วยใน (IPD) เช่น การบาดเจ็บสาหัส (หมายเหตุ : ผู้ป่วยนอก หมายถึงการรักษาตัวที่ไม่ต้องพักอยู่ในโรงพยาบาล ผู้ป่วยใน หมายถึงการรักษาตัวที่ต้องพักอยู่ในโรงพยาบาล

ประกันภัยการเดินทางต่างประเทศ (Comprehensive Travel Accident Insurance: CTA) จะมีส่วนเพิ่มเติมจากข้างต้น ดังนี้ 

ชดเชยในด้านชีวิตและร่างกาย ได้แก่ เสียชีวิต ทุพพลภาพ สูญเสียอวัยวะ

ค่ารักษาพยาบาลรวมถึงค่าใช้จ่ายอื่นๆ คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลในโรงพยาบาล ที่เกิดจากการบาดเจ็บอันเนื่องมาจากอุบัติเหตุไม่ว่าจะเป็นผู้ป่วยนอก (OPD) หรือผู้ป่วยใน (IPD) สำหรับการเจ็บป่วยที่เกิดขึ้นในระหว่างการเดินทาง รวมถึงค่าใช้จ่ายในการเคลื่อนย้ายเนื่องจากการบาดเจ็บหรือเจ็บป่วยสาหัส ค่าเดินทาง และค่าที่พักสำหรับญาติใกล้ชิดเพื่อดูแลหรือร่วมเดินทางกลับภูมิลำเนาในกรณีที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ รวมถึงค่าใช้จ่ายในการปลงศพนอกภูมิลำเนา การส่งศพหรือกระดูกกลับภูมิลำเนา

ชดเชยระหว่างรักษาตัวในโรงพยาบาล นอกจากการคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลแล้ว กรมธรรม์ประกันภัยเดินทางยังให้ความคุ้มครองเงินสดรายวันกรณีที่ต้องรักษาตัวในฐานะผู้ป่วยใน(IPD) อีกด้วย

ความรับผิดต่อบุคคลภายนอก กรมธรรม์ประกันภัยเดินทางจะชดใช้ในนามของผู้เอาประกันให้แก่บุคคลภายนอกสำหรับการบาดเจ็บหรือทรัพย์สินเสียหายที่เกิดจากอุบัติเหตุในระหว่างการเดินทางในต่างประเทศจนเป็นเหตุให้ผู้เอาประกันต้องรับผิดชอบตามกฎหมาย แต่ทั้งนี้ไม่รวมถึงความรับผิดที่เกิดจากการใช้ยานพาหนะ

การสูญหายของกระเป๋าเดินทางและทรัพย์สินส่วนตัวที่อยู่ภายในกระเป๋าเดินทาง ในบางสถานการณ์ที่ไม่อาจควบคุมได้ระหว่างการเดินทาง เช่น การสูญหาย หรือเสียหาย ไม่ว่าในโรงแรม สนามบิน การถูกชิงทรัพย์ หากมีการแจ้งความ และนำหลักฐานมายืนยัน กรมธรรม์ประกันภัยการเดินทางประเภทนี้จะชดใช้ให้ตามจริงแต่ไม่เกินจำนวนเงินที่กำหนดไว้

การล่าช้าของกระเป๋าเดินทาง กรณีที่พบเห็นมาก คือการที่กระเป๋าเดินทางมาล่าช้ามากๆ ทั้งๆ ที่ตัวเราเดินทางมาถึงแล้ว ซึ่งอาจเกิดจากความผิดพลาดของสายการบิน กรณีเช่นนี้ ทำให้ผู้เดินทางเดือดร้อนเป็นอย่างมากในการหาซื้อเสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัวที่จำเป็น โดยให้เก็บใบเสร็จและขอหนังสือรับรองจากสายการบินไว้ เพื่อทำการขอคืนค่าใช้จ่ายที่ได้จ่ายไปโดยกรมธรรม์ประกันภัยเดินทางจะชดใช้ให้ตามระยะเวลาที่ล่าช้าแต่ต้องไม่ต่ำกว่า 12 ชั่วโมง

การบอกเลิกการเดินทางและลดจำนวนวันเดินทาง เมื่อตัดสินใจที่จะเดินทางและทำประกันภัยเดินทางต่างประเทศไว้แล้ว ก็อาจมีเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดทำให้ต้องกลับเร็วกว่ากำหนด เช่น ข่าวด่วนการเจ็บป่วยร้ายแรงของญาติพี่น้องที่ได้รับการแจ้งมา ที่บ้านเกิดเหตุร้ายแรง หรือเหตุการณ์ที่ทำให้เราไม่สามารถเดินทางไปในจุดหมายได้อย่างกะทันหัน เช่น เกิดเหตุการณ์ภัยพิบัติที่จุดหมายปลายทางอย่าง พายุ แผ่นดินไหว การจลาจล หรือ การสไตรค์นัดหยุดงาน กรมธรรม์ประกันภัยเดินทางจะชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดจากการบอกเลิกการเดินทางหรือลดจำนวนวันลง เช่น ค่าปรับ ค่ามัดจำ ฯลฯ

การล่าช้าของเที่ยวบิน ในกรณีสายการบินพาณิชย์ออกเดินทางล่าช้าหรือเลื่อนเวลาเดินทางออกไปอย่างน้อย 12 ชั่วโมงจากเวลาที่กำหนดไว้ เนื่องจากเหตุการณ์ที่ไม่คาดหมาย และอยู่นอกเหนือการควบคุมของสายการบิน กรมธรรม์ประกันภัยเดินทางจะจ่ายเงินชดเชยทุกๆ 12 ชั่วโมงของการล่าช้า

การจี้เครื่องบิน ในกรณีที่เครื่องบินที่ผู้เอาประกันภัยเดินทางโดยสารอยู่ถูกจี้ กรมธรรม์ประกันภัยเดินทางจะจ่ายค่าชดเชยให้ทุก 24 ชั่วโมงที่ถูกจี้

การบอกเลิกการเดินทางและลดจำนวนวันเดินทาง เมื่อตัดสินใจที่จะเดินทางและทำประกันภัยเดินทางต่างประเทศแล้ว ก็อาจมีเหตุการณ์บางเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันทำให้เราไม่สามารถเดินทางไปได้หรือต้องกลับเร็วกว่ากำหนด เช่น การที่เจ็บป่วยหนักถึงขนาดที่ไม่สมควรเดินทางไม่ว่าตัวเอง หรือข่าวด่วนที่ได้รับการแจ้งมาเกี่ยวกับพ่อแม่หรือบุตรก็ตาม การที่ไม่สามารถไปได้เพราะบ้านเกิดเหตุร้ายแรงอย่างไฟไหม้ น้ำท่วม และที่เห็นได้ชัดเจนมากที่สุดก็คือการที่ภาวะโลกปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของภัยพิบัติของจุดหมายปลายทาง ยกตัวอย่างเช่น พายุที่เกิดขึ้นในพม่า แผ่นดินไหวที่จีน เรื่องของการจลาจลที่อาจเกิดขึ้นในธิเบต การสไตรค์นัดหยุดงานในอินเดีย ทำให้ไม่สามารถเดินทางไปในจุดหมายได้ หรือแม้กระทั่งการเกิดโรคใหม่ๆอย่างไข้หวัดนกและทำให้ต้องถูกกักบริเวณจนต้องเลื่อนกำหนดกลับ ทั้งหมดนี้ทำให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายที่จ่ายไปแล้วฟรีๆหรือมีค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นใหม่จากการเลื่อนกำหนดนี้ เช่น ค่ามัดจำโรงแรม ค่าปรับจากการเลื่อนเที่ยวบินหรือการต้องซื้อตั๋วเที่ยวบินใหม่ บริษัทประกันภัยจะเข้ามาช่วยแบกรับค่าใช้จ่ายเหล่านี้ให้ โปรดอาจรายละเอียดและขั้นตอนปฏิบัติในกรมธรรม์ประกันภัยให้ถูกต้องเมื่อเกิดเหตุการณ์เหล่านี้ขึ้น

การล่าช้าของเที่ยวบิน หากด้านบนเป็นเรื่องของการเลื่อนเวลาการเดินทางที่เกิดจากตัวเราเอง ในส่วนนี้จะพูดถึงการเลื่อนการเดินทางที่เหตุเกิดจากทางสายการบิน โดยเป็นเหตุสุดวิสัยที่ไม่สามารถควบคุมได้ เช่น จุดหมายปลายทางสภาพอากาศไม่อำนวย ซึ่งไม่ได้หมายถึงการดีเลย์ของเครื่องเล็กๆน้อยๆทั่วไป แต่ต้องเกิดการดีเลย์ถึงอย่างน้อย 12 ชั่วโมง และบริษัทประกันภัยจะชดเชยให้ตามลำดับขั้นทุกๆ 12 ชั่วโมง

หมายเหตุ :: มีบางอย่างที่ประกันภัยการเดินทางไม่ให้ความคุ้มครองซึ่งเป็นข้อ ยกเว้นทั่วไป เช่น
   - โรคที่รู้ว่าเป็นมาก่อน
   - การดำน้ำ (Scuba Diving) และปีน เขาแบบที่ต้อง ใช้อุปกรณ์ปีนเขา

ที่มา : tvinsure.com
เกร็ดความรู้ดีๆจาก  ประกันภัยรถยนต์ โปรโมชั่น ประกันรถยนต์ ดีๆ
เบื่อซ่อม อยากขาย ไว้ใจ  รถยนต์มือสอง ตลาดรถ รับฝากขายรถมือสอง เปรียบเทียบรถยนต์ ฟรี!!


วันพุธที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

เปรียบเทียบการทำประกันภัยแบบมีที่ปรึกษาและแบบไม่มีที่ปรึกษา

1.การเลือกจัดประกันภัย                                                      

1.1 มีที่ปรึกษา
(1)  ช่วยจัดเงื่อนไขการประกันภัยให้สอดคล้องกับงบประมาณและความเสียงภัย          
(2) ช่วยคัดสรรบริษัทรับประกันภัย ที่มีความน่าเชื่อถือในความมั่นคงทางการเงินและมีความพร้อมในการให้บริการประกันภัยแต่ละประเภท                                                   
(3) ช่วยต่อรองเบี้ยประกันภัยให้เหมาะสมกับสภาพความเสียงภัยและเปรียบเทียบข้อเสนอจากบริษัทรับประกันภัยเพื่อให้ผู้เอาประกันภัยได้เบี้ยประกันภัยที่ประหยัด คุ้มค่าและไม่มีปัญหาตามหลัง     
(4)  ช่วยผู้เอาประกันภัยลดค่าใช้จ่ายในการจัดหาประกันภัยและจัดการเคลมประกันภัย
(5)  ช่วยดูแลไม่ให้ขาดต่ออายุกรมธรรม์ 
    
1.2 ไม่มีที่ปรึกษา
(1) อาจไม่ได้รับความคุ้มครองที่เหมาะสม ในขณะที่ต้องจ่ายเบี้ยประกันภัยสูงเกินจำเป็น      
(2) อาจมีปัญหาในการใช้บริการในภายหลัง ถ้าเลือกบริษัทผู้รับประกันภัยโดยดูที่เบี้ยประกันภัยถูกเพียงอย่างเดียว                                                                             
(3) อาจเสียโอกาสได้เบี้ยประกันภัยที่ประหยัดมากกว่า                                           
(4) เสียเวลาและค่าใช้จ่ายมากกว่า และยิ่งมากกว่าหากมีปัญหาความเป็นธรรมและความสะดวกในการเคลม  
(5)  อาจขาดต่ออายุกรมธรรม์โดยไม่ได้ตั้งใจ                                         

2. การเรียกร้องสินไหม                                                                                                                             
2.1 มีที่ปรึกษา 
(1) ลดโอกาสสูญเสียสิทธิประโยชน์ ที่พึงได้ เนื่องจากไม่มีความรู้ความเข้าใจความคุ้มครองทีมีอยู่ตามกรมธรรม์                                                                                    
(2) ที่ปรึกษาทำงานประกันภัยเป็นอาชีพมีฐานะเป็นเสมือนลูกค้ารายใหญ่ของบริษัทผู้รับประกันภัย กรณีผู้เอาประกันภัยมีความเห็นขัดแย้งกับ บริษัทผู้รับประกันภัย ความรู้ ประสบการณ์อำนาจต่อรองของที่ปรึกษา ย่อมช่วยผู้เอาประกันภัยให้ได้รับการชดใช้สินไหมอย่างเป็นธรรมและสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น              
2.2  ไม่มีที่ปรึกษา    
(1) ไม่ทราบความคุ้มครองทั้งหมด จึงอาจเสียสิทธิประโยชน์ที่พึงได้จากความคุ้มครองสูงสุดเท่าวงเงินประกันภัย จากประสบการณ์เคยพบผู้เอาประกันภัยหลายรายที่เสียและเกือบเสียประโยชน์เป็นเงินตั้งแต่พันบาทถึงหลายแสนบาท                  
(2) รักษาผลประโยชน์ของตนเองได้ยากกว่าเพราะขาดความรู้ความเข้าใจในเงื่อนไขความค้มครอง และไม่มีอำนาจต่อรองกับบริษัทประกันภัย                                                 

 3. การติดต่อประสานงาน                                                                                                    
3.1 มีที่ปรึกษา   สะดวกเพราะได้รับบริการแบบเบ็ดเสร็จที่จุดเดียว(one stop service)จากที่ปรึกษาซึ่งเป็นผู้ติดตามประสานงานกับบริษัทรับประกันภัยและทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง 
3.2 ไม่มีที่ปรึกษา   ค่าใช้จ่ายในการจัดการประกันภัยสูง เพราะไม่มีผู้ดูแลโดยเฉพาะ ต้องเสียเวลาและค่าใช้จ่ายในการติดตามประสานงานด้วยตนเองกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจนเสร็จการ                                                                                                                       

บทความโดย  สมพล  หริกุล  
สำนักงานเอสพีซีอาร์  ศูนย์ปรึกษาประกันภัย      

เกร็ดความรู้ดีๆจาก  ประกันภัยรถยนต์ โปรโมชั่น ประกันรถยนต์ ดีๆ
เบื่อซ่อม อยากขาย ไว้ใจ  รถยนต์มือสอง ตลาดรถ รับฝากขายรถมือสอง เปรียบเทียบรถยนต์ ฟรี!!

วันจันทร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ประกันภัยเดินทางต่างประเทศเหมาะกับใคร



นักท่องเที่ยวแบบอิสระ 
นักท่องเที่ยว หรือประเภทแบคแพคเกอร์ที่เที่ยวด้วยตัวเองนั้น มักจะต้องทำทุกอย่างด้วยตัวเองเริ่มตั้งแต่วางแผนจนถึงการเดินทางด้วยตัวเองโดยที่ไม่มีบริษัททัวร์ช่วยอำนวยความสะดวกให้ การแก้ปัญหากับสิ่งใหม่ๆ ที่ไม่เคยได้พบมาก่อนเป็นเรื่องปกติที่จะต้องเจอ ซึ่งนั่นก็มีความเสี่ยงมากน้อยตามแต่ละสถานที่ โดยเฉพาะการเดินทางบนรถโดยสาร ซึ่งต้องพบปะผู้คนมากมายหลายแบบ ถึงแม้จะมีอิสระแต่ก็อาจไม่ปลอดภัยได้เช่นกัน 

นักท่องเที่ยวที่ใช้บริการบริษัททัวร์ 
ปกติบริษัททัวร์จะจัดทำประกันภัยการเดินทางให้แก่ลูกค้าอยู่แล้ว แต่จากที่ได้กล่าวข้างต้นว่าการประกันภัยเดินทางมีอยู่หลายประเภทให้เลือก ซึ่งขึ้นอยู่กับบริษัททัวร์แต่ละบริษัทว่าจะจัดทำประกันภัยการเดินทางให้เรามากน้อยเพียงใด โดยเริ่มต้นที่ต่ำสุดที่คุ้มครองเฉพาะกรณีเสียชีวิตจากอุบัติเหตุอย่างเดียวเพียง 100,000 บาท ดังนั้น จึงควรขอตรวจสอบรายละเอียดให้ชัดเจนจากบริษัททัวร์ หากพบว่าไม่เพียงพอต่อความต้องการก็สามารถที่จะซื้อความคุ้มครองเพิ่มเติมจากบริษัทประกันภัยได้ทันที ซึ่งไม่จำเป็นว่าต้องเป็นบริษัทเดียวกันกับประกันภัยที่บริษัททัวร์จัดให้ 

ผู้ที่เดินทางไปประเทศยุโรปในกลุ่มประเทศเชงเก้น 
ได้แก่ อิตาลี เยอรมัน ฝรั่งเศส สเปน เนเธอร์แลนด์ ออสเตรีย กรีซ เบลเยี่ยม โปรตุเกส สวีเดน เดนมาร์ก นอร์เวย์ ฟินแลนด์ ลักแซมเบิร์ก ไอซ์แลนด์ ในกลุ่มนี้จำเป็นต้องทำประกันภัยเดินทางเนื่องจากเป็นข้อบังคับในการขอวีซ่า เพื่อแสดงความมั่นใจได้ว่าหากเกิดเหตุเจ็บป่วยจะมีความสามารถในการจ่ายค่ารักษาได้ เนื่องจากหากเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น จะมีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก การเลือกซื้อประกันภัยเดินทางจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องดูว่าบริษัทที่รับทำประกันภัยเดินทางนั้นได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการจากสถานทูตในกลุ่มนี้ด้วยหรือไม่ และดูทุนประกันภัยขั้นต่ำที่กำหนดไว้คือ 30,000 ยูโร (หรือประมาณ 1,500,000 บาท) เป็นอย่างน้อย ตัวเลขนี้ต้องตรวจสอบดูว่าเป็นทุนประกันภัยในส่วนของค่ารักษาพยาบาลและอุบัติเหตุการเดินทางด้านการชดเชยในกรณีเสียชีวิต 
ผู้ที่เดินทางไปทำงาน สัมมนา/ประชุมที่ต่างประเทศ 
ท่านสามารถตรวจสอบกับบริษัทของท่านได้ว่าได้มีการทำประกันภัยการเดินทางต่างประเทศให้กับท่านหรือไม่ หรือตรวจสอบกับประกันภัยแบบอื่นที่ท่านมีอยู่ในปัจจุบันว่ามีความซ้ำซ้อนหรือไม่ แต่โดยปกติประกันสุขภาพที่ท่านทำไว้จะมีความคุ้มครองอยู่ในอาณาเขตประเทศไทยเท่านั้น ดังนั้น ควรซื้อประกันภัยการเดินทางต่างประเทศไว้เพิ่มเติมเพื่อความอุ่นใจกว่า 

ผู้ที่เดินทางเพื่อการศึกษาเรียนต่อ
โปรดทำการตรวจสอบกับโรงเรียน มหาวิทยาลัย หรือหอพักที่ท่านได้ทำการเลือกไว้ว่ามีกฎข้อบังคับการทำประกันภัยกับบริษัทใดหรือไม่ และตรวจเช็คช่วงเวลาที่คุ้มครอง ซึ่งอาจจะมีบางช่วงเวลาที่ไม่ครอบคลุม เช่น ช่วงเวลาเดินทางจนถึงลงทะเบียนเรียน ในบางครั้งการท่องเที่ยวก่อน หรือการเรียนภาษาในเบื้องต้น อาจเป็นเหตุให้ท่านควรเลือกซื้อประกันภัยเดินทางประเภทนี้ไว้ก่อนเช่นเดียวกัน 

เกร็ดความรู้ดีๆจาก  ประกันภัยรถยนต์ โปรโมชั่น ประกันรถยนต์ ดีๆ
เบื่อซ่อม อยากขาย ไว้ใจ  รถยนต์มือสอง ตลาดรถ รับฝากขายรถมือสอง เปรียบเทียบรถยนต์ ฟรี!!

วันศุกร์ที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ขับรถชนแล้วหนี ประกันภัยช่วยได้หรือไม่


กรณีที่คุณขับรถไปแล้วเกิดอุบัติเหตุ และมีคุ่กรณีเป็นรถยนต์ รถกะบะ รถบรรทุก รถอื่นๆ และคุณมั่นใจว่าเป็นฝ่ายถูกให้ปฏิบัติดังนี้
1. จำทะเบียนรถคู่กรณีที่ชนให้ได้ ถ้าจำรายละเอียดอื่นๆ เช่น รถรุ่นอะไร  สีอะไร ติดสติ๊กเกอร์อะไรที่เห็นชัดๆ คนขับผู้หญิงหรือผู้ชาย ถ้าจำได้จะดีมาก  ถ้าสมมุติจำไม่ได้ก็ไม่เป็นอะไร ก็ให้ทำตามข้อ 2 (ถ้าจำไม่ได้เสียตังเพิ่มนิดหน่อย)
2. อย่าเพิ่งลงจากรถ ให้ดูก่อนว่าจุดเกิดเหตุเปลี่ยวไหม กลางวันหรือกลางคืน เนื่องจากต้องระวังมิจฉาชีพ ถ้าปลอดภัยให้ลงจากรถถ่ายรูป พิจารณาความเสียหายของรถ
3. จำไว้ว่าอย่าไปซิ่งไล่ตามรถคู่กรณี มันไม่คุ้มเพราะอาจเกิดอุบัติเหตุซ้ำอีก
4. แจ้งความที่สถานีตำรวจใกล้ที่เกิดเหตุ บอกว่าแจ้งความเอาผิด ชนแล้วหนี  แล้ว สำเนาเอกสารที่รับแจ้งความ จากนั้นติดต่อประกันรถยนต์เรา ซึ่งบริษัทประกันภัยจะชี้แจงขั้นตอนการปฏิบัติ  
คำถาม : กรณีชนแล้วคู่กรณีหนีเราจะเสียค่า Excess หรือค่าเสียหายส่วนแรก ไหม
ตอบ : ถ้าจำทะเบียนรถคู่กรณีที่เกิดอุบัติเหตุได้ ไม่ต้องเสีย Excess หรือค่าเสียหายส่วนแรก   แต่ถ้าจำไม่ได้จะเสียค่า Excess หรือค่าเสียหายส่วนแรก ประมาณ ครั้งละ 1,000 บาท/1ครั้งการเกิดอุบัติเหตุ
คำถาม : ทำไมเกิดอุบัติเหตุ คู่กรณีชิ่งขับหนี แล้วจำทะเบียนไม่ได้ ทำไมต้องเสียค่า Excess หรือค่าเสียหายส่วนแรก
ตอบ : เนื่องจากบริษัทประกันภัยรถ อ้างว่า ป้องกันผู้ขับขี่แอบอ้าง เพื่อจะซ่อมรถหรือชิ้นส่วนที่ไม่ได้เกิดจากอุบัติเหตุ มาสวมรอย

ที่มา : tvinsure.com

เกร็ดความรู้ดีๆจาก  ประกันภัยรถยนต์ โปรโมชั่น ประกันรถยนต์ ดีๆ
เบื่อซ่อม อยากขาย ไว้ใจ  รถยนต์มือสอง ตลาดรถ รับฝากขายรถมือสอง เปรียบเทียบรถยนต์ ฟรี!!

วันพุธที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ประเภทรถที่ต้องทำและไม่ต้องทำ พรบ.



ประเภทรถที่ต้องทําประกันภัย พ.ร.บ.

รถที่ต้องทำประกันภัยตาม พ.ร.บ. ได้แก่รถทุกชนิดทุกประเภทตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ กฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก  กฎหมายว่าด้วยรถยนต์ทหาร เป็นรถที่เจ้าของมีไว้ใช้ ไม่ว่ารถดังกล่าวจะเดินด้วยกำลังเครื่องยนต์ กำลังไฟฟ้า หรือพลังงานอื่น เช่น รถยนต์ รถจักรยานยนต์ รถสามล้อเครื่อง รถยนต์โดยสาร รถบรรทุก หัวรถลากจูง รถพ่วง รถบดถนน รถอีแต๋น ฯลฯ

ดังนั้น การที่มีรถบางประเภท กรมการขนส่งทางบกไม่รับจดทะเบียน แต่หากเข้าข่ายว่ารถนั้นเดินด้วยกำลังเครื่องยนต์ กำลังไฟฟ้า หรือพลังงานอื่นแล้วก็จัดเป็นรถที่ต้องทำประกันภัยตาม พ.ร.บ. ด้วย


รถที่รับการยกเว้นไม่ต้องทำประกันภัย พ.ร.บ.


1.  รถสำหรับเฉพาะองค์พระมหากษัตริย์  พระราชินี พระรัชทายาท และรถสำหรับผู้สำเร็จราชการ แทนพระองค์
2.  รถของสำนักพระราชวังที่จดทะเบียน และมีเครื่องหมายตามระเบียบที่เลขาธิการพระราชวังกำหนด
3.  รถของกระทรวง ทบวง กรม  เทศบาล องค์การบริหารส่วนจังหวัด สุขาภิบาล กรุงเทพมหานคร เมืองพัทยา และส่วนราชการท้องถิ่นที่เรียกชื่ออย่างอื่น และรถยนต์ทหารตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ทหาร
4.  รถของหน่วยงานธุรการขององค์กรที่จัดตั้งขึ้นตามรัฐธรรมนูญ และหน่วยงานธุรการที่เป็นอิสระขององค์กรใดๆ ที่ระบุไว้ในรัฐธรรมนูญ

เกร็ดความรู้ดีๆจาก  ประกันภัยรถยนต์ โปรโมชั่น ประกันรถยนต์ ดีๆ
เบื่อซ่อม อยากขาย ไว้ใจ  รถยนต์มือสอง ตลาดรถ รับฝากขายรถมือสอง เปรียบเทียบรถยนต์ ฟรี!!