
เชื่อว่าหลายๆท่านคงยังไม่รู้จักประกันชีวิตมากพอ คนส่วนมากมักคิดว่าประกันชีวิตทำไปทำไม ตายแล้วถึงจะได้เงิน ไม่เห็นจะคุ้มเลย ตายไปตัวเองก็ไม่ได้ใช้ .... และอื่นๆอีกมากมายที่เคยได้ยินกันมา วันนี้ผมขอบอกเล่าเรื่องของประกันชีวิตให้ท่านได้รู้จักและเข้าใจมันมากขึ้น อย่างที่มันเป็นจริงๆ ไม่ใช่แค่เขาเล่าว่า... เพราะหากใช้มันอย่างถูกวิธี ก็จะเกิดคุณค่าไม่น้อยเลยทีเดียว
โดยหลักๆแล้วประกันชีวิตแบ่งออกเป็น 4 หมวดใหญ่ๆด้วยกันคือ
1. เน้นความคุ้มครอง
2. เน้นสะสมทรัพย์ระยะสั้น
3. เน้นสะสมทรัพย์เพื่อการเกษียญอายุ
4. เน้นสวัสดิการค่ารักษาพยาบาล
อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วข้างต้น ว่าคนส่วนมากมักคิดว่า "ประกันชีวิตทำไปทำไม ตายแล้วถึงจะได้เงิน ไม่เห็นจะคุ้มเลย ตายไปตัวเองก็ไม่ได้ใช้" เป็นคำพูดที่ถูกแต่ยังถูกไม่หมด เพราะนี่คือประกันชีวิตที่อยู่ในหมวดที่ 1 เพียงข้อเดียว (เน้นความคุ้มครอง) ทั้งนี้ผมมีความเห็นว่าคนที่พูดคำกล่าวอย่างข้างต้นนั้น ไม่ได้ผิดอะไร เพียงแต่เค้าทำประกันชีวิตไม่ถูกจุดประสงค์ส่วนตัวของเค้าเองต่างหาก ซึ่งก็ไม่ต่างอะไรกับการขายหวีให้พระสงฆ์ ดังนั้นการจะทำประกันชีวิตต้องดูด้วยว่าคนที่ตอ้งการทำจะทำเพื่อวัตถุประสงค์ใด เพราะในแต่ละหมวดก็มีวัตถุประสงค์เฉพาะในตัวของมัน นั่นคือ
หมวดที่ 1 (เน้นความคุ้มครอง) มีวัตถุประสงค์เพื่อชดเชยค่าความสามารถของคุณ หากคุณเกิดจากไปก่อนวัยอันควร ครอบครัวหรือคนที่คุณรักก็จะได้รับเงินประกันไปก้อนโต เพื่อคนที่อยู่ข้างหลังจะได้ไม่เดือดร้อนอย่างน้อยก็สักระยะหนึ่งหล่ะ แบบนี้เรียกได้ว่าเป็นแบบที่ทำไว้เพื่อคนที่คุณรักโดยแท้ แหม...เท่ห์จริงๆ
หมวดที่ 2 (เน้นสะสมทรัพย์ระยะสั้น) มีวัตถุประสงค์เพื่อเก็บเงินไว้ใช้ในอนาคตข้างหน้าอีก 10 ปี 20 ปี แบบนี้เป็นที่นิยมกันมาก แต่หลายคนอาจจะสงสัยว่าแล้วทำไมต้องมาเก็บเงินในรูปแบบประกันชีวิตหล่ะ ทำไมไม่เก็บกับธนาคาร หรือเอาไปลงทุนทำนู่นทำนี่จะได้กำไรกว่าไหม เอาไว้ผมจะอธิบายต่อไปในหัวข้อหน้า (ทำไมต้องเก็บเงินในรูปแบบประกันชีวิต) นะครับ
หมวดที่ 3 (เน้นสะสมทรัพย์เพื่อการเกษียญอายุ) มีวัตถุประสงค์เพื่อเก็บเงินไว้ใช้ยามเกษียณ เพราะคงไม่มีใครอยากทำงานหาเช้ากินค่ำไปตลอดชีวิตหลอกจริงไหมครับ และหากเราหวังพึ่งพาลูกหลาน ก็ไม่มีใครรับรองได้ว่าลูกหลานจะมาดูแลเราอย่างแน่นอน ดังนั้นเราหวังพึ่งพาตัวเองดีกว่าครับ ท่านเคยสงสัยไหมครับว่าทำไมชาวต่างชาติที่เกษียณแล้วชอบมาอยู่เมืองไทย และเอาเงินไหนมาใช้ ผมเคยคุยกับชาวต่างชาติคนหนึ่งเค้าบอกว่าเค้ามีประกันชีวิตของตัวเองแบบเกษียณ (Pension) เป็น 5-7 เล่มเลยทีเดียว และการที่มาอยู่เมืองไทยก็เพราะค่าเงินบาทเราถูกว่าค่าเงินดอลล่าไงหล่ะครับ นี่แหละทำให้ผมหายสงสัยทันทีว่าชาวต่างชาติเค้าเอาเงินมาจากไหน
โดยหลักๆแล้วประกันชีวิตแบ่งออกเป็น 4 หมวดใหญ่ๆด้วยกันคือ
1. เน้นความคุ้มครอง
2. เน้นสะสมทรัพย์ระยะสั้น
3. เน้นสะสมทรัพย์เพื่อการเกษียญอายุ
4. เน้นสวัสดิการค่ารักษาพยาบาล
อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วข้างต้น ว่าคนส่วนมากมักคิดว่า "ประกันชีวิตทำไปทำไม ตายแล้วถึงจะได้เงิน ไม่เห็นจะคุ้มเลย ตายไปตัวเองก็ไม่ได้ใช้" เป็นคำพูดที่ถูกแต่ยังถูกไม่หมด เพราะนี่คือประกันชีวิตที่อยู่ในหมวดที่ 1 เพียงข้อเดียว (เน้นความคุ้มครอง) ทั้งนี้ผมมีความเห็นว่าคนที่พูดคำกล่าวอย่างข้างต้นนั้น ไม่ได้ผิดอะไร เพียงแต่เค้าทำประกันชีวิตไม่ถูกจุดประสงค์ส่วนตัวของเค้าเองต่างหาก ซึ่งก็ไม่ต่างอะไรกับการขายหวีให้พระสงฆ์ ดังนั้นการจะทำประกันชีวิตต้องดูด้วยว่าคนที่ตอ้งการทำจะทำเพื่อวัตถุประสงค์ใด เพราะในแต่ละหมวดก็มีวัตถุประสงค์เฉพาะในตัวของมัน นั่นคือ
หมวดที่ 1 (เน้นความคุ้มครอง) มีวัตถุประสงค์เพื่อชดเชยค่าความสามารถของคุณ หากคุณเกิดจากไปก่อนวัยอันควร ครอบครัวหรือคนที่คุณรักก็จะได้รับเงินประกันไปก้อนโต เพื่อคนที่อยู่ข้างหลังจะได้ไม่เดือดร้อนอย่างน้อยก็สักระยะหนึ่งหล่ะ แบบนี้เรียกได้ว่าเป็นแบบที่ทำไว้เพื่อคนที่คุณรักโดยแท้ แหม...เท่ห์จริงๆ
หมวดที่ 2 (เน้นสะสมทรัพย์ระยะสั้น) มีวัตถุประสงค์เพื่อเก็บเงินไว้ใช้ในอนาคตข้างหน้าอีก 10 ปี 20 ปี แบบนี้เป็นที่นิยมกันมาก แต่หลายคนอาจจะสงสัยว่าแล้วทำไมต้องมาเก็บเงินในรูปแบบประกันชีวิตหล่ะ ทำไมไม่เก็บกับธนาคาร หรือเอาไปลงทุนทำนู่นทำนี่จะได้กำไรกว่าไหม เอาไว้ผมจะอธิบายต่อไปในหัวข้อหน้า (ทำไมต้องเก็บเงินในรูปแบบประกันชีวิต) นะครับ
หมวดที่ 3 (เน้นสะสมทรัพย์เพื่อการเกษียญอายุ) มีวัตถุประสงค์เพื่อเก็บเงินไว้ใช้ยามเกษียณ เพราะคงไม่มีใครอยากทำงานหาเช้ากินค่ำไปตลอดชีวิตหลอกจริงไหมครับ และหากเราหวังพึ่งพาลูกหลาน ก็ไม่มีใครรับรองได้ว่าลูกหลานจะมาดูแลเราอย่างแน่นอน ดังนั้นเราหวังพึ่งพาตัวเองดีกว่าครับ ท่านเคยสงสัยไหมครับว่าทำไมชาวต่างชาติที่เกษียณแล้วชอบมาอยู่เมืองไทย และเอาเงินไหนมาใช้ ผมเคยคุยกับชาวต่างชาติคนหนึ่งเค้าบอกว่าเค้ามีประกันชีวิตของตัวเองแบบเกษียณ (Pension) เป็น 5-7 เล่มเลยทีเดียว และการที่มาอยู่เมืองไทยก็เพราะค่าเงินบาทเราถูกว่าค่าเงินดอลล่าไงหล่ะครับ นี่แหละทำให้ผมหายสงสัยทันทีว่าชาวต่างชาติเค้าเอาเงินมาจากไหน
หมวดที่ 4 (เน้นสวัสดิการค่ารักษาพยาบาล) มีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันรอยรั่วของเม็ดเงินของคุณที่เก็บหอมรอมริบมาทั้งชีวิต ผลักภาระค่าใช้จ่ายค่ารักษาพยาบาลไปให้บริษัทประกันรับผิดชอบดีกว่า "ยอมเสียเงินส่วนน้อยเพื่อป้องกันเงินส่วนมาก" มิเช่นนั้นแล้วเงินที่คุณทยอยเก็บมาตลอดนั้น คุณเก็บเพื่อตัวคุณเอง หรือเก็บไว้ให้ใครบางคน (หมอ) กันแน่หล่ะครับ
ท่านทั้งหลายที่ได้อ่านคงทราบถึงประโยชน์ และวัตถุประสงค์ของการทำประกันชีวิตในแต่ละหมวดแล้ว ผมหวังว่าหัวข้อนี้จะช่วยให้คนไทยได้รู้จักประกันชีวิตอย่างจริงๆมากขึ้นนะครับ
*** เบี้ยประกันชีวิตสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้สูงสุดถึง 100,000 บาท ***
ท่านทั้งหลายที่ได้อ่านคงทราบถึงประโยชน์ และวัตถุประสงค์ของการทำประกันชีวิตในแต่ละหมวดแล้ว ผมหวังว่าหัวข้อนี้จะช่วยให้คนไทยได้รู้จักประกันชีวิตอย่างจริงๆมากขึ้นนะครับ
*** เบี้ยประกันชีวิตสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้สูงสุดถึง 100,000 บาท ***
ที่มา : oknation.net/blog/124
เกร็ดความรู้ดีๆ จาก ที่ปรึกษา ประกันภัยรถยนต์ ชั้นนำ แหล่งรวมโปรโมชั่น ประกันรถยนต์ ดีๆ
เบื่อซ่อม อยากขาย ไว้ใจ Q4Car ตลาดรถ รับฝากขาย รถมือสอง ฟรี!!!!
เกร็ดความรู้ดีๆ จาก ที่ปรึกษา ประกันภัยรถยนต์ ชั้นนำ แหล่งรวมโปรโมชั่น ประกันรถยนต์ ดีๆ
เบื่อซ่อม อยากขาย ไว้ใจ Q4Car ตลาดรถ รับฝากขาย รถมือสอง ฟรี!!!!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น