วันอังคารที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ ชนคนตาย จ่ายหรือไม่


hotnews02

ประกันภัยรถยนต์ภาค บังคับ หรือที่หลายๆ คนเรียก ประกัน พรบ.รถยนต์ ซึ่งก็เป็นไปตามชื่อเลยครับ รัฐบังคับเจ้าของรถต้องทำประกันดังกล่าว แต่เราต้องยอมรับว่า ผลประโยชน์ส่วนหนึ่งจะตกกับผู้ได้รับบาดเจ็บ ทุพลภาพถาวร หรือผู้เสียชีวิต (ทายาท) จากอุบัติเหตุทางรถต่างๆ เพื่อให้มีค่ารักษาพยาบาล และค่าชดเชยหากมีการเสียชีวิตให้กับทายาท
แต่ชาวบ้านทั่วๆ ไป อาจจะไม่รู้ว่าตัวเองจะมีสิทธิเรียกร้องค่ารักษาพยาบาล หรือค่าปลงศพ หรือค่าชดเชยกรณีทุพพลภาพ หรือเสียชีวิต จากกรณีเป็นผู้ประสบภัยจากอุบัติเหตุจากรถ ผมขอยกตัวอย่าง มีชายสูงอายุคนหนึ่ง ขับรถมอเตอร์ไซค์อยู่ดีๆ แต่แล้วมีรถกระบะคันหนึ่งขับรถถอยหลังมาชนอย่างแรง จนเป็นเหตุให้ชายสูงอายุได้เสียชีวิต ภรรยาและลูกต้องสูญเสียผู้นำครอบครัวซึ่งเป็นผู้หาเลี้ยงครอบครัว แต่ก็ไม่รู้ว่าจะไปเรียกร้องอย่างไร กับใครได้บ้าง ลองมาดูว่าเราควรจะเริ่มเรียกร้องสิทธิของเราได้อย่างไรบ้าง
1. ดูว่ารถของเราได้ทำประกัน พรบ.รถยนต์ ไว้หรือไม่ เพราะเคสนี้ รถมอเตอร์ไซค์ไม่ได้ทำประกัน พรบ.ไว้ แต่ทางตำรวจได้ทำสำนวนไว้ว่าคนขับรถกระบะ เป็นฝ่ายผิด ขับรถยนต์คนตายด้วยความประมาท และไม่ได้ความช่วยเหลืออย่างทันท่วงที และได้ขับรถยนต์หนีไป ลองมาดูว่าผู้เสียชีวิต ฉะนั้นทายาทของผู้เสียชีวิต ค่าชดเชยจะได้ค่าชดเชยจากการเสียชีวิตของสามี 200,000 บาท แต่ในเบื้องต้น จะได้ค่าปลงศพ (ค่าใช้จ่ายเบื้องต้น) 35,000 บาท จากกองทุนทดแทนผู้ประสบภัยจากรถก่อน โดยปกติเราอาจจะเรียกร้องจากบริษัทประกัน ที่จำหน่าย พรบ.ให้เรา แต่ว่าผู้เสียชีวิต ไม่ได้ทำ พรบ.ไว้ จึงต้องไปเรียกร้องจากกองทุนฯก่อน หรือจะรอเรียกร้องจากบริษัทประกันภัย ผู้เป็นฝ่ายผิด ทั้งหมดเลยก็ได้
2. คู่กรณีได้ทำประกัน พรบ.รถยนต์ ไว้หรือไม่ ในเคสนี้ คู่กรณีได้ทำประกันไว้ แต่บริษัทประกันก็ไม่ได้จ่ายเงินง่ายๆ ครับ เพราะเค้าต้องรอให้ศาลพิจารณา ตัดสินเรียบร้อยแล้ว หากคูกรณีที่ขับรถกระบะ เป็นฝ่ายผิดถึงจะจ่าย ฉะนั้นมันก็ใช้เวลายาวนานแน่นอนครับ ซึ่งเคสนี้ ก็เกือบจะ 6 เดือนแล้ว ตอนนี้ก็คงต้องรอให้ศาลพิจารณาตัดสินให้แล้วเสร็จ และนำผลการตัดสินของศาลไปดำเนินการแจ้งกับบริษัทประกันภัยฯ เพื่อไปเรียกร้องค่าชดเชยจากบริษัท
3. การเรียกร้องค่าชดเชย ยากหรือง่าย? มันก็ไม่ง่ายอย่างที่คิดครับ เพราะจากข้อที่ 1 คู่กรณีไม่ได้ทำประกัน พรบ.รถยนต์ไว้ ซึ่งจริงๆ ก็จะต้องแจ้งต่อตำรวจเพื่อเปรียบเทียบปรับ สูงสุดไม่เกิน 10,000 บาท ไม่มากไม่น้อยทีเดียว ไม่สำหรับคนไม่มีเงินทอง เพื่อที่จะได้นำหลักฐานไปพิสูจน์ว่าไม่ได้ไปเบิกเงินจากกองทุนทดแทนผู้ประสบ ภัยจากรถ เพื่อจะให้ได้รับเงินเต็มจำนวน 200,000 บาท จากบริษัทประกันภัยของคู่กรณี
การเรียกร้องเป็นสิ่งที่ผู้สูญเสียควรจะทำ แต่จะทำอย่างไร ขั้นตอนเป็นอย่างไร และจะได้รับเงินหรือไม่ และเท่าไหร่ ทุกอย่างก็ต้องใช้เวลาในการดำเนินการ ซึ่งเราได้รับคำแนะนำที่ถูกต้องและเป็นประโยชน์จากตัวแทน นายหน้า หรือบริษัทประกันภัยที่ใส่ใจให้บริการลูกค้า มิใช่มุ่งหวังแต่กำไร และผลประโยชน์ทางธุรกิจเป็นหลัก
อย่างไรก็ตามไม่ควรลืมว่าการทำประกันภัยรถยนต์ เป็นทั้งภาคบังคับที่ทุกเจ้าของรถฯ ทุกท่านควรจะทำไว้ แต่หากมีกำลังทรัพย์เพียงพอ ก็สามารถซื้อความคุ้มครองที่เพิ่มสูงขึ้นตามความเหมาะสม ก็ถือว่าเราได้บริหารความเสี่ยงฯ ที่ดีแล้ว แต่ที่สำคัญที่สุด การขับขี่รถยนต์หรือยานพาหนะทางบกต่างๆ ควรกระทำด้วยระมัดระวัง ไม่ประมาท เพราะถ้าหากพลาด มันหมายถึง ทรัพย์สิน ชีวิตอันมีค่า และอาจจะไม่สามารถเรียกร้องกลับมาได้อีก

ประกันภัยรถยนต์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น