วันพุธที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2555

ประกันภัยงัดกฎเหล็กเลิกคุ้มครองฉี่ม่วง-เมาหนักขับรถเจอดี


         ประกันภัยรับ ลูกรัฐเมาไม่ขับ ลุยรื้อเงื่อนไขกรมธรรม์รถยนต์ภาคสมัครใจ ลดคุ้มครอง
คนขับเมาเหล้า จำกัดต้องมีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดไม่เกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์จากเดิม
ให้ถึง 150 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ย้ำเกณฑ์เดียวกับกฎหมายฉวยจังหวะเพิ่มเงื่อนไขสากลไม่คุ้มครอง
คนขับฉี่ม่วง ทั้งเมายาบ้า ยาไอซ์ ส่วนเบี้ยประกันปรับปรุงใหม่เช่นกันให้สอดรับกับความเสี่ยง-โมเดลรถใหม่เกิด เยอะ ยกเคส “อีโคคาร์” เบี้ยอาจถูกลงกว่าเดิม เชื่อกฎหมายใหม่ห้าม
ดื่มบนรถกดสินไหมประกันรถยนต์ลด..

ปรับปรุงกธ.ประกันภัยรถยนต์ผู้ขับขี่ที่ดื่มแอลกอฮอล์ฉบับมาตรฐานทุกประเภท

          นายพันธ์เทพ ชัยปริญญา ประธานชมรมสินไหมยานยนต์ สมาคมประกันวินาศภัย ในฐานะคณะทำงานปรับปรุงกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจและประกันภัยภาคบังคับ สมาคมประกันวินาศภัย เปิดเผยว่า ทางคณะทำงานฯ อยู่ระหว่างปรับปรุงเงื่อนไขในกรมธรรม์
ประกันภัยรถ ยนต์ภาคสมัครใจฉบับมาตรฐานทุกประเภทเกี่ยวกับความคุ้มครองผู้ขับขี่ที่ดื่ม แอลกอฮอล์แล้วขับรถไปเฉี่ยวชนผู้อื่นจนเกิดความเสียหาย จากเดิมกรมธรรม์
ให้ความคุ้มครองผู้ขับขี่ที่มีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดไม่ เกิน 150 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์
จะปรับลดลงเหลือเท่ากับระดับที่กฎหมายกำหนด ซึ่งปัจจุบันกฎหมายกำหนดไม่เกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ให้เป็นเกณฑ์เดียวกับประกันภัยรถยนต์ทั่วโลก“เราขอข้อมูลกรมธรรม์
ประกันภัยรถยนต์ 217 ประเทศทั่วโลกมาเทียบกับของเราดูว่าของเขาคุ้มครองผู้ขับขี่ที่มีปริมาณ แอลกอฮอล์ในเลือดเท่าไหร่ พบว่าเกิน 60% คุ้มครองในระดับไม่เกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ประมาณ 100 ประเทศคุ้มครองไม่เกิน 70 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ และมีเกือบ 10 ประเทศหากพบว่าคนขับดื่มเหล้าปุ๊บกรมธรรม์ไม่คุ้มครองเลย    การที่เราปรับปรุงกรมธรรม์ใหม่ให้สอดรับกับแนวทาง ของภาครัฐลดความสูญเสียจาก การเมาแล้วขับ”
          นอกจากนี้ ในกรมธรรม์ที่กำลังปรุบปรุงใหม่จะเพิ่มเงื่อนไขไม่คุ้มครองผู้ขับขี่ที่เสพ สารเสพติด เช่น ยาบ้า, ยาไอซ์ที่เรียกง่ายๆ ว่า ฉี่ม่วงด้วยกำหนดเป็นข้อยกเว้น ในกรมธรรม์หากพบผู้ขับขี่
เสพสารติดดังกล่าว แล้วเกิดอุบัติเหตุขึ้นกรมธรรม์ไม่คุ้มครองเลยจากเดิมคุ้มครอง สาเหตุที่ต้องเพิ่มเงื่อนไขดังกล่าวเนื่องจากระยะหลังมีสถิติการเกิด อุบัติเหตุจำนวนมาก
ที่พบว่าผู้ขับขี่ไม่ได้ดื่มสุรา ไม่มีกลิ่นเหล้า แต่สังเกตได้ว่าเมายาบ้า ยาไอซ์“เดี๋ยวนี้ตำรวจเขามี
น้ำยาตรวจสารพวกนี้ในปัสสาวะ ณ จุดเกิดเหตุแล้ว บางที่อาจจะต้องรอผลส่งตรวจ ซึ่งกรมธรรม์ของต่างประเทศเขาก็ไม่คุ้มครองคนขับฉี่ม่วง เสพสารเสพติดเหมือนกัน ในอดีตกรมธรรม์ของเราก็เคยมีข้อยกเว้นไว้ แต่เนื่องจากมีการปรับปรุงหลายครั้ง ครั้งหลังสุดตกหล่นไป เมื่อเราปรับปรุงใหม่เลยเพิ่มเติมเงื่อนไขข้อนี้เข้าไป”  สำหรับอัตราเบี้ยประกันภัยซึงได้มีการปรับปรุงใหม่
ด้วยนั้น นายพันธ์เทพกล่าวอีกว่ามีการทบทวนทั้งระบบเช่นกันเพื่อให้สอดรับกับความเสี่ยงภัยและ
โมเดลรถใหม่ๆ ที่มีออกมามากขึ้นเพื่อให้อัตราเบี้ยประกันภัยถูกต้อง เป็นธรรมทั้งกับบริษัทประกันภัยและ 
ผู้บริโภค อาทิ มูลค่ารถยนต์เสื่อมเร็ว เครื่องยนต์ ระบบความปลอดภัยมีมากน้อยแค่ไหน ราคาอะไหล่
เป็นอย่างไร เบี้ยประกัยต้องผันแปรตามราคาอะไหล่ โดยว่าจ้างบริษัททัทชาม (ประเทศไทย) ศึกษาจัดกลุ่มใหม่ให้ โดยทัทชามแบ่งประเภทรถออกเป็น 24 กลุ่มจากเดิมมีแค่ 5 กลุ่ม
“ยกตัวอย่างรถโตโยต้า แคมรี่, ฮอนด้า แอคคอร์ด, นิสสัน เทียร์น่า ของเดิมอยู่กลุ่มเดียวกัน แต่ของใหม่จะอยู่คนละกลุ่มแบ่งตามเครื่องยนต์มีขนาดเครื่อง 2,400 ซีซี, 2,500 ซีซี และ 3,500 ซีซี เครื่องยนต์ที่มีซีซีสูงเวลาเกิดอุบัติเหตุจะหนักกว่า เป็นการจัดกลุ่มตามการผันแปรของเครื่องยนต์ หรือรถประหยัดพลังงาน (อีโคคาร์) ซึ่งตอนนี้คิดเบี้ยต่ำสุดก็จริงยึดตามพิกัดอัตราเบี้ยของเดิมที่เริ่มใช้มา ตั้งแต่ปี 2541-42 แต่ตอนนั้นคิดจากฐานรถเก๋ง 4 ล้อมียอดจำหน่ายประมาณ 7 ล้านคันแต่ตอนนี้เพิ่มเป็น 10 ล้านคัน เมื่อวอลุ่มเยอะเบี้ยก็ต้องถูกลง ถ้ายึดตามหลักนี้รถอีโคคาร์เบี้ยอาจจะแพงไป ขณะที่สถิติการเกิดอุบัติเหตุในตอนนี้ความเสี่ยงยังปกติอยู่”

บังคับใช้กฎหมายควบคุมแอลกอฮอล์แนวโน้มค่าสินไหมลดเบี้ยประกันภัยต้องปรับใหม่

        นายพันธ์เทพกล่าวว่า ปัจจุบันการจราจราทางถนนดีขึ้น อย่างต่างจังหวัดมีการปรับปรุงถนนดีขึ้น มีสัญญาณไฟตามจุดต่างๆ มากขึ้น  กฎหมายเข้มขึ้นอย่างล่าสุดเพิ่งบังคับใช้กฎหมายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ห้ามดื่มในที่สาธารณะทั้งขณะขับขี่หรือโดยสารในรถหรือบนรถทุกประเภทรวมถึง ท้ายรถด้วย ต้องปรับให้เหมาะสมอุบัติเหตุอาจจะเกิดน้อยลง แนวโน้มค่าสินไหมทดแทนจะลดลง ดังนั้น เบี้ยประกันภัยต้องปรับให้เหมาะสม
“หลักการอัตราสินไหมประกันภัยรถยนต์ไม่ควรเกิน 60% ที่ผ่านมาประมาณ 70-80% สิ้นปี 2554 อยู่ที่ประมาณ 64-65% เมื่อรวมกับค่าใช้จ่ายทั้งหมดอัตรารวม (คอมไบน์ เรโช) ประมาณ 110% เท่ากับขาดทุน 10% มาจากน้ำท่วม”
อย่างไรก็ดีในการทบทวนรูปแบบกรมธรรม์และเบี้ยประกันภัยรถยนต์นั้นทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ได้ตั้งคณะทำงานขึ้น 3 ชุด ชุดแรกดูแลด้านพัฒนาการพัฒนารูปแบบกรมธรรม์และเบี้ยประกัน ชุดที่สองปรับปรุงเงื่อนไขกรมธรรม์ทั้งภาคสมัครใจและภาคบังคับและชุดที่สาม จัดทำคู่มือตีความทั้งภาคสมัครใจและภาคบังคับ แต่ละชุดจะมีทั้งทีมของคปภ.และสมาคมร่วมกันต่างคนต่างหาข้อสรุปของตัวเอง ก่อนจะนำไปข้อมูลไปพูดคุยกันในคณะใหญ่ซึ่งจะมีการนัดประชุมกันอาจจะเป็น เดือนนี้หรือเดือนหน้า โดยการปรับปรุงทั้งหมดต้องแล้วเสร็จและเริ่มใช้ก่อนประชมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) อาจจะเป็นต้นปี 2556 หรือกลางปี 2556
จากข้อมูลของคปภ. ในช่วง 5 เดือนปีนี้ ประกันภัยรถยนต์มีเบี้ยรับรวม 40,566 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.08% อัตราสินไหม (Loss Ratio) 65.21% ขณะที่สิ้นปี 2554 มีเบี้ยประกัน 83,250.04 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.62% อัตราสินไหม 54.90% โดยเบี้ยประกันภัยรถยนต์คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 59% ของเบี้ยประกันวินาศภัยทั้งระบบ



แหล่งข้อมูล : tqmbroker.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น