อ่วม
ไปตามกันเลยทีเดียวสำหรับ วิกฤตการณ์น้ำท่วมระดับชาติครั้งใหญ่ในรอบหลายปี
จนบางคนนั้นบอกว่า นี่เป็น "มหาภัยสึนามิน้ำจืด"
ที่ทำให้หลายคนนั้นต้องตกอยู่ภายใต้ภัยพิบัติอย่างช่วยไม่ได้
แต่ก็ยังมีคนอีกจำนวนหนึ่งที่ไม่หวั่นอันตรายในการเข้าไปช่วยพื้นที่ประสบ
ภัย
เมื่อ
ก่อนหน้านี้
เราเคยพูดถึงการขับรถลุยน้ำท่วมไปแล้วกับข้อปฏิบัติที่ควรจะทำเมื่อคุณต้อง
ลุยเส้นทางน้ำท่วม
แต่ก็ดูเหมือนว่าจะยังมีหลายคนที่ยังไม่ค่อยเข้าใจในการขับรถลุยน้ำ
แต่เอาเป็นว่าถ้าคุณกำลังต้องผ่านทางลุยน้ำท่วมระดับสูง
สิ่งเหล่านี้คือข้อห้ามระหว่างขับขี่ในน้ำท่วม
1.ห้ามขับรถเร็ว
เส้นทางน้ำท่วมนั้นนับเป็นอุปสรรคที่สำคัญที่ท้าทายอย่างมากสำหรับนักขับ
และสิ่งที่สำคัญเมื่อคุณใช้เส้นทางที่เต้มไปด้วยน้ำนั้นคือห้ามขับรถเร็ว
เหตุผลที่เราไม่แนะนำให่คุณขับรถเร็วนั้น ก็เพราะ
1.น้ำอาจจะกระเด็นใส่คนอื่นๆ หรือ เพื่อนร่วมทาง
ซึ่งคุณอาจจะโดนสาบแช่งตามหลังได้ และ 2.เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ
เนื่องจากน้ำท่วมนั้น อาจทำให้การเบรกให้หยุดนั้นมีประสิทธิภาพลดลง
เช่นเดียวกับระยะเบรค ที่เกิดจากการสัมผัสผิวถนนนั้นทำได้ยากขึ้น
ทำให้ลื่นยิ่งขึ้น
2.อย่าเร่งเครื่องแรง
ในการลุยพื้นทีน้ำท่วมนั้น ตามปกติของการลุยอุปสรรคทั้งหลายนั้น
เรามักจะใช้กำลังเครื่องเดินเบามากกว่าใช้การเร่งเครื่องเพื่อผ่านอุปสรรค
ซึ่งการเดินเบานี้เราเรียกว่า Walking Speed
ซึ่งตามหลักการทำงานของเครื่องยนต์แล้ว ยิ่งเราเร่งเครื่องมาก
เครื่องยนต์ก็จะยิ่งต้องการอากาศมากเพื่อไปใช้ผสมกับอัตราการจ่ายน้ำมันที่
เพิ่มขึ้น และถ้าคุณลุยน้ำในระดับสูง แล้วเร่งเครื่องรอบสูงผลก็คือ
เครื่องยนต์อาจจะดูดน้ำเข้าไป และท้ายที่สุดเครื่องยนต์อาจจะดับได้
3.พยายามอย่าใช้เบรก
เบรกรถนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญในการเดินทางและในพื้นที่น้ำท่วมนั้นพยายามลด
การใช้เบรค แต่ให้ใช้แรงเฉื่อยของเครื่องยนต์ในการหยุดรถหรือชะลอความเร็ว
ยิ่งเมื่อรวมกับมวลของน้ำแล้วนั้น เราก็จะพบว่า
การลดความเร็วในพื้นที่น้ำท่วมนั้นสามารถทำได้ง่าย แม้ไม่ใช้เบรค
ที่สำคัญอย่าวิ่งติดกับคันหน้า ควรเว้นระยะห่างสัก2 ช่วงคัน รถ
เพื่อความปลอดภัย โดยเฉพาะ ในกรณีที่คันหน้าอาจจะเสีย
เราจะได้ไม่ติดท่ามกลางสายน้ำ
4.พยายามอย่าใช้คลัทช์ คลัทช์
นั้นเป้นตัวตัดต่อกำลังเคร่องยนต์ และ
แม้คลัทช์จะเป็นอุปกรณ์ภายในที่อยู่ระหว่างท้ายเครื่องยนต์และชุดเกียร์
แต่ก
ใครที่ขับรถเกียร์ธรรมดาในน้ำท่วมแล้วคิดจะต้องย้ำคลัทช์เพื่อให้ให้รถดับ
นั้น เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องอย่างยิ่ง เนื่องจากทุกครั้งที่ย้ำคลัทช์
เครื่องจะเร่งแรงเพิ่มขึ้นทำให้ เครื่องอาจจะดูดน้ำเข้าไปได้
และอีกประการคือ น้ำมีแรงดันซึ่งอยู่ที่ล้อ ยิ่งน้ำลึก
ยิ่งทำให้ยากต่อการหมุน
ซึ่งหมายถึงคลัทช์จะต้องรับแรงในการเชื่อมต่อมากขึ้นจากเดิม
ซึ่งผลคือสามารถทำให้คลัทช์รถนั้นไหม้ได้
ดังนั้นทางที่ดีเปลี่ยนเกียร์ที่เหมาะสมก่อนลงน้ำ ครับ
5.อย่าสร้างคลื่นน้ำ
คลื่นน้ำคือตัวอันตรายที่สำคัญที่สุดในการทำให้รถนั้นสามารถดับกลางอากาศได้
ระหว่างลุยน้ำท่วม และนับเป็นเรื่องสำคัญมากๆ
การที่เราวิ่งรถในพื้นที่น้ำท่วมนั้น
เราไม่ปฏิเสธว่าเราไม่สามารถหลีกเลี่ยงการทำให้ไม่เกิดคลื่นไม่ได้
แต่เราสามารถรถผลกระทบที่จะเกิดขึ้นได้ ไม่ว่ากับรถตัวเอง
หรือรถคันอื่นๆก็ตาม และทางที่ดี เมื่อพบว่ามีรถสวน ก็ให้ลดความเร็วลง
ถ้าเห็นว่ารถคันที่สวนมามาเร็ว ลิฟไฟส่งสัญญาณสักนิด ก็ดีใช่น้อย แต่หาก
รถอีกคันมาแรงคืล่นมาสูงมาก ให้เราเร่งความเร็วเพิ่ม
เพื่อทำให้เกิดคลื่นปะทะ ก่อนที่หน้ารถเราจะผ่านคลื่นน้ำนั้น
อย่าเหวี่ยงรถหนี เพราะ คลื่นสามารถดันรถ อาจทำให้คว่ำได้โดยเฉพาะรถยกสูง
6.อย่าเหวี่ยงรถกะทันหัน
หลายครั้งที่เราขับรถในพื้นที่น้ำท่วมนั้น เราไม่ปฏิเสธว่า
อาจจะมีเซอร์ไพร์ส กับหลุมที่เกิดขึ้นจากการกัดเซาะของน้ำ
แต่ถ้าคุณเห็นในระยะกระชั้นชิดแล้วเตรียมที่จะหักหลบหนี อย่าทำโดยเด็ดขาด
เพราะพื้นถนนมีแรงยึดเกาะต่ำ ยิ่งถ้าคุณมาเร็วมาก
อาจจะเป็นต้นเหตุทำให้รถคว่ำเอาได้ง่ายๆ
ทั้ง 6 ข้อ
นี้เป็นคำแนะนำจากเราที่อยากให้ปฏิบัติ เมื่อขับรถลุยพื้นที่น้ำท่วม
ซึ่งสิ่งหนึ่งที่สำคัญในการขับรถลุยน้ำท่วมนั้น คือการเชื่อมั่นในรถ
และเชื่อมั่นในตัวเอง อย่าหวั่นวิตกกับอุปสรรคบนเส้นทางข้างหน้าครับ
ด้วย ความปราถนาดีจากบริษัท TQM Insurance Broker
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น