
นายประเวช องอาจสิทธิกุล เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เผยจากอุบัติเหตุรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ เสียหลักวิ่งข้ามเกาะเฉี่ยวชนกับรถทัวร์ปรับอากาศ สายกรุงเทพฯ — ร้อยเอ็ด และรถยนต์กระบะ บริเวณถนนมิตรภาพขาเข้า กิ โลเมตรที่ 19 ตำบลทับกวาง อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 21 ราย และบาดเจ็บ 20 ราย เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ว่า ทางบริษัทวิริยะประกันภัย ตกลงที่จะจ่ายค่าสินไหมทดแทนแก่ผู้เสียชีวิตรายละ 9 แสนบาท
เนื่องจากทางรถทัวร์ปรับอากาศ ได้จัดทำประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ (พ.ร.บ.) กับบริษัท ทิพยประกันภัย และทำประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ (ประเภท 3) กับบริษัท วิริยะประกันภัย
รถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ ทำประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ (พ.ร.บ.) และทำประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ (ประเภท 1) กับบริษัท วิริยะประกันภัย
ส่วนรถยนต์กระบะ ทำประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ (พ.ร.บ.) กับบริษัท ไทยประกันภัย
สำหรับผู้ประสบภัยจะได้รับความคุ้มครองจากบริษัทประกันภัย ดังนี้
1. ผู้ประสบภัยที่โดยสารรถทัวร์เสียชีวิต หรือทุพพลภาพถาวร ทายาทสามารถเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน ดังนี้
1.1 ความคุ้มครองจากการประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ (พ.ร.บ.) 2 แสนบาทต่อคน และ
1.2 ความคุ้มครองจากการประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ (ประเภท 3) กรณีไม่มีผู้ขาดไร้อุปการะตามกฎหมาย ขั้นต่ำไม่น้อยกว่า 1 แสนบาทต่อคน หรือกรณีมีผู้ขาดไร้อุปการะตามกฎหมาย ขั้นต่ำไม่น้อยกว่า 3 แสนบาทต่อคน และ
1.3 ความคุ้มครองจากการประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 2 แสนบาทต่อคน
2. ผู้ประสบภัยที่ได้รับบาดเจ็บสามารถเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน ได้ดังนี้
2.1 ความคุ้มครองจากการประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ (พ.ร.บ.) ได้รับค่ารักษาพยาบาลตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 5 หมื่นบาทต่อคน และค่าชดเชยรายวัน สำหรับผู้ประสบภัยที่พักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล วันละ 200 บาท สูงสุดไม่เกิน 20 วัน และ
2.2 ความคุ้มครองจากการประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ (ประเภท 3) ได้รับค่ารักษาพยาบาลตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกินความคุ้มครองที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ประกันภัย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น